ทำความรู้จักประกันการขนส่งทางทะเล (Marine & Cargo Insurance) ประกันภัยสินเชื่อทางการค้า (Trade Credit Insurance) และประกันรับผิดต่อผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance)

ทำความรู้จักประกันการขนส่งทางทะเล
ทำความรู้จักประกันการขนส่งทางทะเล

ในการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ การประกันภัยย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมาก โดยมีประกันที่เกี่ยวข้องมากมายเช่น ประกันภัยทะเล ที่เรียกว่า Marine Cargo Insurance ประกันภัยสินเชื่อทางการค้า หรือ Trade Credit Insurance และยังมีประกันภัยที่สำคัญมากอีกชนิดหนึ่ง คือ ประกันภัยความรับผิดต่อผลิตภัณฑ์ ชื่อเรียกในภาษาประกันจะใช้ว่า Product Liability Insurance เป็นประกันที่คุ้มครองความรับผิดของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ส่งออก ขายไปยังตลาดต่างประเทศ แล้วผลิตภัณฑ์นั้นทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื่อง ประกันจะต้องคุ้มครองตามหลักการ Claim Made Basisหลักการดังกล่าวนี้ คือ การที่ผู้ซื้อสินค้าเรียกร้องให้ผู้ผลิตรับผิดต่อความผิดพลาดในการผลิตสินค้า เช่น ผู้ผลิตยางพาราส่งยางพาราไปให้ผู้ผลิตยางรถยนต์ แล้วเมื่อนำยางไปประกอบในรถยนต์ ซึ่งต่อมาคนขับรถไปเกิดเหตุยางระเบิด ผู้ซื้อรถจะเรียกร้องมาที่ผู้ผลิตรถ ซึ่งก็จะเรียกร้องต่อมายังผู้ผลิตยางรถยนต์ แล้วผู้ผลิตยางพาราจึงถูกเรียกร้องต่อมาอีกทอดหนึ่ง ประกันก็คุ้มครองให้ปกติแล้วผู้ส่งออกมักจะเชื่อมั่นในมาตรฐานสินค้าที่ส่งออกของตนเอง แต่ถึงแม้เป็นดังนั้น ผู้ซื้อในต่างประเทศก็ยังต้องการความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งในบางกรณีอาจเรียกร้องให้ผู้ส่งออกทำประกัน Product Liability Insurance เพื่อเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งการปรึกษาโบรคประกันหรือนายหน้าประกันที่มีความชำนาญเฉพาะสำหรับประกันการขนส่งทางทะเลจะช่วยให้สามารถออกแบบกรมธรรม์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประกันภัยชนิดนี้เป็นประกันในกลุ่มความรับผิด หรือ Liability ดังนั้นจึงมีความคุ้มครองที่แตกต่างจาก Property คือให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายหรือสูญเสียที่เกิดขึ้น แยกความคุ้มครองออกเป็นความรับผิดต่อร่างกายและชีวิต แล้วก็จะมีความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์ของบุคคลภายนอก ซึ่งความคุ้มครองสองส่วนนี้เป็นความคุ้มครองที่ผู้ซื้อส่วนมากต้องการสามารถแยกให้เห็นชัดเจนได้ดังนี้

  • Bodily Injury

คุ้มครองกรณีที่ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บต่อร่างกาย เช่น ผู้ส่งออก ผลิตสินค้า Electronic แล้วเกิดทำให้ไฟรั่วมาดูดคนงานที่นำชิ้นงานนั้นไปประกอบ อันนี้เรียกว่าเป็นความบาดเจ็บต่อร่างกาย ประกันจะชดใช้ให้ตามการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น การจ่ายสินไหมก็จ่ายให้ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ ซึ่งโดยปกติจะเป็นบริษัทผู้นำเข้าสินค้าต้นเหตุในต่างประเทศ

  • Property Damage

กรณีนี้คุ้มครองสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไป แล้วทำให้เกิดความเสียหาย ยกตัวอย่างเหมือนเดิม ถ้าผู้ขาย ส่งออกชิ้นส่วน Electronic ไปต่างประเทศ เมื่อผู้ซื้อประกอบไปแล้วเกิดไฟรั่ว ทำให้เครื่องจักรที่ประกอบชิ้นงานได้รับความเสียหาย ประกันภัยก็จ่ายสินไหมให้กับผู้ที่นำเข้าสินค้านี้ไปประกอบ เพื่อชดเชยความเสียหายต่อเครื่องจักรดังกล่าว

Leave a Comment