ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์: สัญญาณเตือนที่ควรรู้

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับคุณแม่หลายๆ คน แต่ก็อาจมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ภาวะแทรกซ้อนบางประเภทอาจรุนแรงและส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ บทความนี้จะช่วยให้คุณแม่รู้จักกับสัญญาณเตือนของภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ที่ควรทราบ เพื่อไปพบแพทย์ได้ทันท่วงที

1. เลือดออกทางช่องคลอด:

  • เลือดออกกะปริดกะปรอย: เลือดออกเล็กน้อย อาจเป็นสีชมพูหรือสีน้ำตาล มักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ สาเหตุอาจมาจากการฝังตัวของทารกในครรภ์ หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  • เลือดออกมาก: เลือดออกมากกว่าปกติ มักเป็นสีแดงสด อาจเกิดขึ้นได้ทุกช่วงของการตั้งครรภ์ สาเหตุอาจมาจากภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น การแท้งบุตร ครรภ์นอกมดลูก หรือรกเกาะต่ำ
  • เลือดออกเป็นก้อน: เลือดออกเป็นก้อนใหญ่ มักเป็นสีแดงเข้ม อาจเกิดขึ้นได้ทุกช่วงของการตั้งครรภ์ สาเหตุอาจมาจากภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น การแท้งบุตร ครรภ์นอกมดลูก หรือรกเกาะต่ำ
  • เลือดออกสีน้ำตาล: เลือดออกสีน้ำตาลคล้ายกับเลือดประจำเดือน มักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ สาเหตุอาจมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือการติดเชื้อในช่องคลอด

2. ปวดท้อง:

  • ปวดท้องน้อย: ปวดท้องบริเวณท้องน้อย อาจเป็นอาการปกติของการตั้งครรภ์ มักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรก สาเหตุอาจมาจากการขยายตัวของมดลูก
  • ปวดท้องแบบบีบรัด: ปวดท้องคล้ายกับอาการปวดประจำเดือน มักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ สาเหตุอาจมาจากอาการเจ็บครรภ์
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง: ปวดท้องอย่างรุนแรง อาจเกิดขึ้นได้ทุกช่วงของการตั้งครรภ์ สาเหตุอาจมาจากภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น การแท้งบุตร ครรภ์นอกมดลูก หรือไส้ติ่งอักเสบ

3. ตกขาวผิดปกติ:

  • ตกขาวมีสีเหลือง สีเขียว หรือสีน้ำตาล: ตกขาวสีเหลือง สีเขียว หรือสีน้ำตาล อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในช่องคลอด
  • ตกขาวมีกลิ่นเหม็น: ตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในช่องคลอด
  • ตกขาวเป็นก้อน: ตกขาวเป็นก้อน อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อราในช่องคลอด
  • ตกขาวมีปริมาณมาก: ตกขาวมีปริมาณมาก อาจเป็นสัญญาณของถุงน้ำคร่ำแตก

4. อาเจียนรุนแรง:

  • อาเจียนมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน: อาเจียนมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน อาจเป็นสัญญาณของภาวะแพ้ท้องรุนแรง
  • อาเจียนจนร่างกายขาดน้ำ: อาเจียนจนร่างกายขาดน้ำ อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • อาเจียนเป็นเลือด: อาเจียนเป็นเลือด อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น เลือดออกในกระเพาะอาหาร

5. ปวดศีรษะรุนแรง:

  • ปวดศีรษะแบบไม่เคยเป็นมาก่อน: ปวดศีรษะแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

6. สายตาพร่ามัว:

  • สายตาพร่ามัว มองเห็นภาพไม่ชัด: สายตาพร่ามัว มองเห็นภาพไม่ชัด อาจเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • เห็นจุดดำหรือแสงแฟลช: เห็นจุดดำหรือแสงแฟลช อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ภาวะ Netzhautablösung

7. อาการบวม:

  • บวมที่ใบหน้า มือ และเท้า: บวมที่ใบหน้า มือ และเท้า อาจเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • บวมที่มือและเท้าอย่างรุนแรง: บวมที่มือและเท้าอย่างรุนแรง อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

8. ทารกดิ้นน้อยลง:

  • ทารกดิ้นน้อยลง หรือไม่ดิ้นเลย: ทารกดิ้นน้อยลง หรือไม่ดิ้นเลย อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ทารกในครรภ์เสียชีวิต

9. มีไข้:

  • มีไข้สูง: มีไข้สูง อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
  • มีไข้ร่วมกับอาการอื่นๆ: มีไข้ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดท้อง หนาวสั่น อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ไตอักเสบ

10. รู้สึกอ่อนเพลีย:

  • รู้สึกอ่อนเพลียอย่างรุนแรง: รู้สึกอ่อนเพลียอย่างรุนแรง อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ภาวะโลหิตจาง

11. อื่นๆ:

  • เจ็บปัสสาวะแสบขัด: เจ็บปัสสาวะแสบขัด อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • คันตามร่างกาย: คันตามร่างกาย อาจเป็นสัญญาณของภาวะ cholestasis ของการตั้งครรภ์
  • หายใจลำบาก: หายใจลำบาก อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว

ข้อควรระวัง:

  • ควรไปพบแพทย์ทันทีหากมีสัญญาณเตือนใดๆ ของภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
  • ไม่ควรซื้อยามาทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
  • ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ควรไปพบแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ

การเตรียมตัว:

  • จดบันทึกอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • เตรียมรายชื่อคำถามที่ต้องการถามแพทย์
  • เตรียมเอกสารสำคัญ เช่น สมุดฝากครรภ์ บัตรประชาชน

การดูแลตัวเอง:

  • ทานอาหารครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติด
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับคุณแม่ แต่ก็อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ การรู้จักสัญญาณเตือนและเตรียมตัวให้พร้อม จะช่วยให้คุณแม่และทารกในครรภ์ปลอดภัย

หมายเหตุ

  • บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยของแพทย์
  • ควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใดๆ เกี่ยวกับสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์

หรือหากสนใจประกันวางแผนการมีลูก สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ ประกันวางแผนการมีลูก

Leave a Comment