การส่งออกในปัจจุบันมีแนวโน้มสูงมากขึ้นทุกปี เนื่องจากความต้องการสินค้าของต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านมักมีความต้องการสินค้าที่สูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง เช่น ผลไม้ พืชผัก ข้าว ซึ่งประเทศเราผลิตได้ในปริมาณมากและมีคุณภาพ ส่วนสินค้าอื่นๆ ก็ยังคงมีทิศทางการส่งออกที่สูงขึ้นด้วย ทั้งนี้เนื่องจากการซื้อขายระหว่างประเทศง่ายขึ้น การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศมีความคล่องตัวและรวดเร็วขึ้นด้วย จึงส่งผลให้ทิศทางการส่งออกมีแนวโน้มสูงขึ้นตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งก่อนที่ผู้ประกอบการจะส่งสินค้าออกนั้น ควรเรียนรู้และศึกษาถึงขั้นตอนการส่งออกต่างๆ ที่ถูกต้องและครบถ้วนด้วย เพื่อการส่งออกที่ถูกต้องตามระเบียบ และลดความยุ่งยากที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเอง
ขั้นตอนการส่งออกที่ถูกต้องมีดังนี้
–สำรวจตลาดสินค้าที่ตนต้องการส่งออกเสียก่อนว่า มีความต้องการของตลาดมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้เพื่อวางแผนปริมาณในการส่งสินค้าออก เพราะการส่งสินค้าออกที่ดีนั้น ไม่ควรคำนึงถึงแค่การขนส่งให้ได้ปริมาณเยอะต่อคราว แต่สินค้ากลับต้องไปรอการซื้อขายอยู่ท่าปลายทางโดยไม่มีกำหนด เพราะอาจทำให้สินค้าเกิดความเสียหายหรือหมดอายุก่อนได้
–เช็กความสามารถในการผลิตสินค้าส่งออกของตนก่อนติดต่อส่งสินค้าออกด้วย เพื่อจะได้ตอบสนองความต้องการของตลาดต่างประเทศได้ว่า ตนมีความพร้อมในการสู่ตลาดโลกมากน้อยเพียงใด และกำลังการผลิตสินค้าของตนเหมาะสมกับปริมาณความต้องการของตลาดส่งออกด้วยหรือไม่ เพราะการสำรวจกำลังการผลิตสินค้าของตนที่ดีจะทำให้ทราบกำลังการผลิตสินค้าได้ และสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุดที่สุดนั่นเอง
–ศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียดในเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติในการส่งออกสินค้าและบริการ รวมทั้งเรื่องการเสียภาษี การศุลกากรต่างๆ เป็นต้น เพราะเรื่องเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เหล่าผู้ประกอบการทั้งหลายควรศึกษาและทำความเข้าใจให้ถ่องแท้เสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายภายหลังจากการดำเนินการทางธุรกิจส่งออกได้
–การทำสัญญาการส่งออกระหว่างผู้ค้าต่างๆ ควรศึกษาถึงกฎหมายที่สามารถใช้บังคับได้หากเกิดการปฏิบัติที่ผิดสัญญา รวมถึงการเรียกค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนต่างๆ ที่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือการผิดสัญญาอีกด้วย
–การขนส่งสินค้า นับว่าเป็นขั้นตอนที่ใกล้ชิดกับการส่งออกไปยังปลายทางมากที่สุด เพราะเป็นกระบวนการสุดท้ายในการลำเลียงสินค้าและบริการจากต้นทางไปสู่ปลายทาง ซึ่งกระบวนการส่งออกสินค้าในระหว่างการขนส่งนั้น ผู้ประกอบการควรศึกษาถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการขนส่ง รวมทั้งวิธีการรับมือ หรือปัจจัยที่ช่วยบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งได้ ซึ่งการทำประกันภัยต่างๆ ก็สามารถตอบโจทย์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งได้ด้วย
ขั้นตอนการส่งออกที่สำคัญจึงมีหลักๆ ตามที่กล่าวมา แต่ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามไปด้วย ทั้งนี้เพื่อช่วยให้การส่งออกสินค้าของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นมากที่สุด รวมทั้งยังสามารถยืนหยัดได้ด้วยธุรกิจนี้ไปอย่างยาวนานนั่นเอง